วันพุธที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ครูบี พราวิเนีย เสียงเม้าท์หลังห้องเรียน นวดหน้าเรียว


          เรื่องราวของครูบีจริงๆ ไม่ได้มีให้เม้าท์มากมายนัก 
เพราะความเป็นแม่พระ เป็นผู้ให้ เป็นศูนย์กลางที่ทุกคนให้ความนับถือ 
ทำให้เธอเป็นคนเดียวที่มักจะถูกแซวในแง่ดี อีกทั้งยังเป็นคุณแม่ที่เลี้ยงลูกชายทั้งสองคนด้วยความรักอันบริสุทธิ์
แต่หากจะให้พูดถึงสีสันของครูบีก็มีอยู่บ้าง


            ความใส่ใจในลูกศิษย์ถือเป็นอันดับหนึ่ง แต่ความใส่ใจ ห่วงใย และรักในสต๊าฟ ทีมงานทุกคน 
พี่บีก็มีให้ไม่แพ้กัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าพวกเราคือบ้านหลังใหญ่แต่อบอุ่น ที่ไม่ว่าใครอยู่ก็มีแต่ความสุข

            พี่บีในตำแหน่งของผู้บริหาร ถือเป็นผู้บริหารตัวอย่างที่ไม่เคยมองหาหรือจับผิดความผิดพลาดของลูกน้อง 
ไม่เคยชี้นิ้วสั่ง ไม่เคยตำหนิอย่างไม่มีเหตุผล (อะไรจะเพอร์เฟคปานนั้น) 
ที่มากกว่าข้อดีก็คือพี่บีจะนึกถึงทีมงานทุกคนตลอด 
เข้าบริษัทครั้งใดก็มักมีขนมนมเนยติดมือมาฝาก หากคอร์สไหนนักเรียนมีจำนวนเยอะเป็นพิเศษ
ก็จะพาไปเลี้ยงสังสรรค์กันด้วยความสนุกสนาน เป็นรางวัลที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่แต่อบอุ่นเหลือเกิน

ที่เกริ่นมาดูจะมีแต่ข้อดี ถ้าอย่างนั้นเราจะแอบเล่าความน่าหมั่นไส้เล็กๆ ให้ทุกคนได้รู้ทั่วกัน!

            เรื่องมีอยู่ว่าใครๆ ก็รู้ว่าพี่บีกับพี่วรรส (หรือที่ทีมงานจะเรียกกันว่าเฮีย) เป็นคู่คิดคู่ชีวิตที่น่าอิจฉา ทั้งสองคนร่วมกันสร้างธุรกิจ ต่อยอดชื่อเสียงพราวีเนียให้เติบโต เฮียวรรสจึงมักจะดูแลทุกคนดีเช่นเดียวกับพี่บี

            วันหนึ่งหลังจบคอร์สไปอย่างสนุกสนาน พวกเราทีมงานเก็บของกันจนเรียบร้อย 
เตรียมพร้อมประชุมวางแผนสำหรับคอร์สต่อไป ซึ่งแท้จริงการประชุมของเราไม่ได้ซีเรียสเลยสักนิด 
เป็นการถกเถียงหาจุดบกพร่องเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้นมากกว่า 
และพี่วรรสมักจะเป็นคนดูภาพลักษณ์ภาพรวมของพราวีเนียอย่างถี่ถ้วน 
ตั้งแต่หน้าประตู ชั้นวางรองเท้า ห้องเก็บของ ห้องเรียนนวดหน้า ห้องออฟฟิศ มุมต่างๆ 
แม้กระทั่งมุมทานข้าวและตู้เย็น ทุกอย่างถูกพี่วรรสแนะนำให้จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ระเบียบเสียจนพี่บีเอ่ยแซวขึ้น

            “เฮียตู้เย็นไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง”
            “แต่ถ้าเป็นระเบียบได้ก็ดีไม่ใช่เหรอเจ้” (พี่วรรสมักเรียกพี่บีว่าเจ้อยู่บ่อยๆ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ >////<)
            “ก็เกินไป๊” เจ้ยังคงเถียงเสียงสูง
            จากนั้นพี่วรรสจึงเอ่ยขึ้นเชิงหยอกล้อ “ก็เหมือนตู้เย็นที่บ้านเจ้นั่นแหละ จัดให้เป็นระเบียบก็ดี”

            พี่บีหัวเราะออกมาอายๆ ทำให้พวกเราที่นั่งประชุมอยู่ขำตามอย่างเสียไม่ได้ 
อะไรจะหยอกเอินกันแบ๊วขนาดนี้ ไม่เพียงแค่นั้น ความหวานของทั้งคู่ยังคงมีเป็นระลอกให้พวกเรายิ้มแก้มปริ 
เพราะไม่ว่าจะเหนื่อย จะยุ่งวุ่นวายแค่ไหน พี่บีกับเฮียวรรสก็มักแสดงความห่วงใยกัน ถามไถ่กันตลอดว่า 
เหนื่อยไหมเฮีย’ ‘เมื่อยหรือเปล่าเจ้ พักก่อนก็ได้นะ ซึ่งมันส่งผ่านความรู้สึกอิ่มเอมใจมาถึงพวกเราด้วย


            ความรัก ความห่วงหาอาทรเหล่านี้ ทำให้พวกเรารู้สึกว่าการให้ให้อย่างจริงใจเป็นอย่างไร 
พี่บีและพี่วรรสทำให้พวกเราเข้าถึงแก่นแท้ของการให้ และเรียนรู้ที่จะส่งต่อการให้เช่นนี้ไปถึงนักเรียนพราวีเนียทุกคน 
  





เหล่าสต๊าฟซึมซับไปโดยปริยาย พวกเราทุกคนไม่ได้เก่งกว่า ไม่ได้ถือว่าตัวเองเป็นครูที่เหนือกว่า 
แต่พวกเราตั้งใจจะให้ความรู้ เทคนิคทุกอย่างที่พวกเรามี เพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถก้าวเดินต่อไป 
นวดหน้าเรียวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะคอยอยู่เบื้องหลังในวันที่นักเรียนทุกคนโซเซ ไม่มั่นใจ 
อยากกลับมาเรียนซ้ำ ฝึกฝนให้เก่งขึ้น พวกเรายินดีอยู่ที่เดิมไม่หนีไปไหนเหมือนที่พี่บีก็ไม่เคยทิ้งพวกเราไปไหนเช่นกัน

----------
สนใจ เป็นลูกศิษย์ครูบี พราวิเนีย...และเข้าเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวพราวีเนีย 
สถาบันสอนนวดหน้าเรียว เคาะหน้ามืออาชีพ พราวีเนีย แห่งแรกและแห่งเดียวที่เปิดเป็นการสอนแบบมืออาชีพ ที่ดีที่สุด

เรียนนวดหน้าเรียว เคาะหน้าเด้ง เหลาหน้า V Shape ปั้นดั้งโด่ง นวดหน้าลดไขมัน กดจุด เดรนน้ำเหลือง กัวซา และหาลูกค้าออนไลน์ บน Facebook...กลับมาเรียนซ้ำได้ ฟรี! ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

Tel. 0854244565, 0859456245, 027144465
Line: pravinia
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
www.pravinia.net

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

นวดหน้าเรียว เหลาหน้าสวย สไตล์พราวิเนีย ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ห้องเรียน Pravinia ค่ะ


พราวีเนีย


“นวดหน้าเรียว เหลาหน้าสวย สไตล์…PRAVINIA ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การเรียนการสอน ที่จะได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน ทั้งมิตรภาพ ได้สร้างธุรกิจพารวยด้วยมือเปล่า ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดการเรียนการสอนทั้งสามวันนี้ กับพวกเราพราวีเนียสต๊าฟและครูบี เพราะฉันสวยและรวยเว่อร์”

            เสียงของบรรดาสาวๆ บนเวทีเปล่งออกมาพร้อมเพรียงกันกับรอยยิ้มที่โปรยไปทั่วห้อง “แตงค่ะ อุ๊ค่ะ ตาลค่ะ ธัญย่าค่ะ อีฟค่ะ น้ำหอมค่ะ  มิ้วค่ะ จอยค่ะ เก๋กริ้วค่ะ มิ้นท์ค่ะ เมย์ค่ะ” พวกเธอแนะนำตัวกันทีละคน โดยแต่ละคนดูจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง (ซึ่งฉันจะเม้าท์ให้ฟังหลังจากนี้ รับรองว่าแซ่บจนท้องแข็ง >___<;)

นอกจากสาวๆ สต๊าฟยังมีตัวละครที่อยากแนะนำให้รู้จักกันก่อนก็คือ เฮียวรรส (หนุ่มสมาร์ทเจ้าของหัวใจดวงน้อยๆ ของครูบี) พี่จูน (แอดมิน+สต๊าฟคนเก่ง) พี่วิน (ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพ์และเครื่องมือต่างๆ) พี่โอ๊ค (สาวเท่ประจำออฟฟิศ) ริค (ฝรั่งใจดี พูดภาษาไทยแอ๊บแบ๊ว) และสุดท้าย คริส (ฝรั่งหนุ่มใหญ่ที่จะนำพวกเราพราวีเนียโกอินเตอร์)

            แค่เหล่าสต๊าฟก็น่าหลงรักจนเต็มหัวใจแล้ว หากใครได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศ ความผูกพัน ความรักที่พวกเขามอบให้ก็คงประทับใจจนลืมไม่ลงเหมือนฉันขอรับประกัน

ฉันอาจจะไม่แนะนำตัวให้คุณรู้จัก แต่ขอเป็นตัวแทนนักเรียนพราวีเนียที่รักและได้ชีวิตใหม่จากที่นี่ ได้สร้างรายได้ให้ตัวเองด้วยสองมือเปล่า ได้มิตรภาพ ได้รับโอกาสดีๆ และประสบการณ์ เรื่องราวอีกมากมาย ที่มั่นใจว่าหากไม่ได้เข้ามาเรียนและเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ก็คงไม่มีวันได้เข้าถึงคำว่า ความสุขและความสำเร็จที่แท้จริง

ฉันตัดสินใจก้าวเข้ามาในห้องเรียน ด้วยหวังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองด้วยสองมือ เพราะไม่อยากพึ่งพิงใคร ไม่อยากเป็นภาระ และที่สำคัญไม่อยากทำงานประจำรับเงินเดือนไปตลอดชีวิต (แม้รายได้ต่อเดือนมันจะดูมั่นคงก็ตาม)  คอร์สสอนนวดหน้าเรียวของพราวีเนียใช้เวลาอบรมเพียง 3 วัน โดยมีการสอนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอย่างครบถ้วน ตั้งแต่ความรู้เรื่องชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน ต่อมน้ำเหลือง เทคนิคการนวดด้วยท่าต่างๆ 9 ขั้นตอน แนะนำการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม แม้แต่การพูดคุย ดูแลลูกค้า ครูบีก็สอนให้อย่างหมดเปลือกไม่มีกั๊ก แถมยังสามารถกลับมาเรียนซ้ำได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ถือเป็นการให้ที่ไม่ต้องการเม็ดเงินเป็นตัวตอบแทน

“เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ” เสียงใสๆ ของครูบีกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง หลังจากเหล่าสต๊าฟเสื้อเชิ้ตสีขาวเดินลงจากเวทีมายืนประจำจุดข้างๆ พวกเรา

ในห้องสี่เหลี่ยมไม่แคบไม่กว้างจนเกินไป ฉันเห็นด้านหลังของนักเรียนพราวีเนียอีกสิบกว่าชีวิตที่คงมีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการความรู้ เทคนิคการนวดหน้าเรียว และหนทางที่จะสร้างรายได้กลับไป สายตาทุกคู่จับจ้องที่ครูบีซึ่งกำลังเล่าย้อนความหลังให้พวกเราฟัง

            “เมื่อก่อน           ” เธอเกริ่น “ครูเคยเป็นผู้หญิงที่ไม่ดูแลตัวเอง ไม่รู้ว่าความสวยคืออะไร แม้จะโชคดีที่ผิวขาว หน้าใส แต่ก็กลมแบบผู้มีอันจะกิน” ถึงตอนนี้ครูบีไล่เปิดสไลด์ค้างไว้ที่ใบหน้าของสาวหมวยวัยกลางคน อายุน่าจะ 40 กว่าๆ เมื่อมองเทียบกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเราอย่างเฉิดฉาย ช่างน่าสนใจที่ทั้งสองคนนี้เป็นคนคนเดียวกัน

            “กระทั่งวันหนึ่งถึงจุดพลิกผันของชีวิต ที่เราต้องเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยสองมือของตัวเองให้ได้ ครูตัดสินใจปรึกษาอากู๋ (กูเกิ้ล) ว่าธุรกิจอะไรที่สามารถนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จได้อีกครั้ง ปรากฏว่าอันดับหนึ่งของโลกที่มาแรงก็คือธุรกิจด้านการแพทย์และความงาม… ‘ความงามครูคิด” พร้อมกับที่ใบหน้าสวยเฉี่ยวทำท่าคิดตามไปด้วยแล้วพูดต่อ

            “แล้วความงามด้านไหนล่ะที่เป็นทางที่ถูกต้อง อากู๋ก็เลยช่วยแนะให้ครูทราบว่าการปรับสภาพผิวหน้าให้สวยอย่างเร่งด่วนคือคำตอบ ตอนนั้นถึงได้ปิ๊งไอเดียทันทีว่าธุรกิจนี้แหละที่จะมาแรงแซงทางโค้ง ครูบีเริ่มต้นเรียนทุกศาสตร์ความงามในโลกนี้อย่างจริงจัง ตั้งแต่การนวดหน้า นวดสปา นวดตัว นวดหน้าเรียว เหลาหน้า เคาะหน้า ตบหน้า กัวซาด้วยหินหยกของจีน การกดจุด แพ็คหน้าใสแบบญี่ปุ่น เรียนทุกอย่างจนกระทั่งรู้สึกว่ายังจับจุดไม่ถูก แต่ความโชคดีก็เข้ามาเยือนอีกครั้งเมื่อได้รู้จักกับท่านอาจารย์สมคิด ลวางกูร ท่านเป็นทั้งอาจารย์ที่ให้วิชาและครูยกให้เป็นคุณพ่อคนที่สองที่แนะแนวทาง ให้คำปรึกษาอย่างดีที่สุด ที่สำคัญคือปั้นครูบีให้เป็นครูบีแห่งพราวีเนียอย่างทุกวันนี้

            ฉันนั่งฟังครูบีเล่าเรื่องน่าประทับใจเหล่านั้นก็รู้สึกถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจที่จะถ่ายทอดกำลังใจจากเรื่องราวของตัวเองให้ลูกศิษย์ฟัง ไม่เพียงแต่แรงฮึดที่อยากจะสำเร็จให้ได้เสี้ยวหนึ่งของครูบี พวกเรายังสัมผัสได้ถึงความจริงใจที่ครูบีเพียรรวบรัดหลักสูตรนวดหน้าเรียวรวยเว่อร์ใน 3 วันนี้ เพื่อให้ลูกศิษย์ทุกคนเก็บเกี่ยวความรู้ เทคนิค และสามารถทำได้จริงแม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน

            การเรียนช่วงเช้าผ่านไปแบบสบายๆ กับทฤษฎีเรื่องชั้นผิวหนังและชั้นไขมันที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ระหว่างพักทานข้าวเที่ยง เหล่าสต๊าฟก็ดูแลนักเรียนทุกคนเป็นอย่างดี แม้ข้าวเที่ยงจะเป็นอาหารกล่องธรรมดาๆ อย่างข้าวผัดกระเพราไข่ดาว ข้าวไข่เจียว ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นมื้อที่สนุกไม่น้อยสำหรับพวกเราที่ได้มาอยู่รวมกัน

             เมื่อกลับเข้าสู่ห้องเรียนอีกครั้ง หัวหุ่นที่เราเรียกกันว่า คุณโสภาถูกตระเตรียมไว้บนโต๊ะให้พวกเราแต่ละคน พร้อมตะกร้า Workshop ที่มีอุปกรณ์เสร็จสรรพ นักเรียนทุกคนรู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างจาก ครูแตงที่ต้องขึ้นนำในการฝึกนวดกับคุณโสภาก่อนจะปฏิบัติจริง

            ครูแตงเป็นสาวสวยที่เรียกว่าเก่าแก่ที่สุด เพราะเธอเป็นลูกศิษย์ครูบีรุ่นแรกๆ ตั้งแต่พราวีเนียยังไม่เติบโตเท่าวันนี้ แน่นอนว่าวลีเด็ดที่ต้องนิยามให้เธอก็คือ คนสวยทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดครูแตงมีใบหน้าเรียวเล็ก ตาโต ปากนิด จมูกหน่อย ผมสีเข้มสลวยดูมีน้ำหนัก ผิวขาวเนียน เรียกได้ว่าครบสูตรของคำว่าสวย แต่ความสวยของครูแตงก็มาพร้อมความน่ารักและความเฮฮา รวมถึงความโก๊ะที่หากไม่ใช่นักเรียนพราวีเนียคงไม่ได้เห็นด้านมืดของเธอแน่นอน (โปรดติดตามตอนต่อไป)

ครูแตงสอนพวกเราอย่างละเอียดตั้งแต่การพับผ้าเก็บผมอย่างไรให้ดูเป็นมืออาชีพ การทำความสะอาดผิวหน้า การวิเคราะห์ผิวหน้าลูกค้า จนถึงท่านวดต่างๆ ที่ต้องใช้ในการนวดหน้าเรียว อันสามารถแก้ไขปัญหาคางสองชั้น (หรือเหนียง) ให้หน้าวีเชฟ เรียวเล็กโดยไม่พึ่งโบท็อกซ์ ร้อยไหม ท่านวดลดเลือนริ้วรอย ร่องแก้ม ตีนกา ถุงใต้ตา โดยไม่ต้องแคร์ฟิลเลอร์ รวมถึงการวางมือ เทคนิคที่ทำให้พวกเราเป็นมืออาชีพได้โดยง่ายในสามวัน ซึ่งระหว่างที่ครูแตงสอนอยู่บนเวทีด้านหน้า ข้างๆ พวกเราก็จะมีครูสต๊าฟคอยสอน คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นความใส่ใจที่ฉันรู้สึกได้เป็นอย่างดี

            “พร้อมกันแล้วนะคะเดี๋ยวแตงให้เวลาจับคู่สองนาที ใครเป็นร้านค้าก็เป็นคนนวดก่อน ใครเป็นลูกค้าก็นอนให้นวดหน้าเรียวก่อน อย่าลืมถ่ายรูป Before กับครูอีฟเพื่อเวลาหลังนวดเสร็จจะได้มีรูป After ไว้เปรียบเทียบความแตกต่าง”
            ฉันหันรีหันขวางก็ได้จับคู่กับพี่คนหนึ่งที่เห็นชัดว่ามีปัญหาให้แก้แทบทุกจุด ทั้งเหนียงเยอะ แก้มใหญ่ ถุงใต้ตาหนา หนังตาตก เรียกได้ว่างานนี้มีเหนื่อย แต่ความกังวลว่าฉันจะนวดได้จริงเหรอ พี่เค้าหน้าบานขนาดนี้จะเรียวเล็กได้ตั้งแต่ครั้งแรกเป็นไปได้เหรอ? มันหมดไปเมื่อครูน้ำหอมนั่งลงข้างๆ และยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร
           “ทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว เติมครีม แต้มห้าจุดเลยค่ะ”

            เมื่อการฝึกปฏิบัติเริ่มขึ้นจริง ฉันทำตามขั้นตอนที่ครูอุ๊นำสอนอยู่หน้าห้องอย่างเก้ๆ กังๆ แต่ก็มีครูน้ำหอมคอยสอน คอยเตือน คอยติและช่วยแก้ไขท่านวดให้ถูกต้องตลอดเวลา และสังเกตเห็นว่าทุกระยะจะมีสต๊าฟคอยคุมและดูแลนักเรียนทุกคู่ด้วยความใส่ใจ การนวดหน้าเรียวครั้งแรกของพวกเราจึงผ่านไปจนถึงฝั่ง ที่สำคัญเมื่อฉันได้เห็นผลงานการนวดของตัวเองในไลน์กลุ่ม

            “เห้ย!” ฉันอุทานเสียงดังขณะพินิจพิจารณากับรูปในมือถือ นี่มันผลงานการนวดของฉันจริงๆ หรือนี่?! คำถามที่มีคำตอบชัดเจนอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณ  รู้สึกประทับใจ รู้สึกตื่นเต้น รู้สึกมีความสุข หลากหลายความรู้สึกเกิดขึ้นในใจ จนรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจไม่ผิดที่กล้าลงทุน ลงแรง เชื่อใจและเชื่อมั่นในพราวีเนีย ฉันล่ะอยากจะกระโดดกอดครูบีกับคุณครูสต๊าฟทุกคนแน่นๆ จริงๆ

            วันที่สองและวันที่สามจึงยิ่งทวีความชื่นมื่นให้เหล่านักเรียนกันถ้วนหน้า พวกเราได้ฝึกปฏิบัติซ้ำ ได้เรียนรู้การกัวซาด้วยหินหยก การแพ็คหน้าใสแบบญี่ปุ่น การกดจุด การเลือกผลิตภัณฑ์ ได้ข้อมูลและการแนะแนวทางการเปิดธุรกิจสปา ร้านนวดหน้า การทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์ Facebook รวมถึงการเหลาหน้า เคาะหน้า


            สิ่งเหล่านี้คือความรู้ คืออาชีพ คือความอบอุ่นใน บ้านพราวีเนียที่เป็นทั้งโรงเรียน ครอบครัว เพื่อน พี่น้อง มิตรภาพระหว่างครูและลูกศิษย์ที่ผูกพันกันแม้เวลาอันสั้นเพียงสามวัน แต่ก็เป็นสามวันที่ลูกศิษย์ทุกคนไม่มีทางลืม ฉันมั่นใจว่าหากใครพร้อมเปิดรับและอยากสัมผัสประสบการณ์อิ่มใจเช่นรุ่น PRAVINIA SMILE ของฉัน ขอให้เข้ามาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งในบ้านหลังนี้ด้วยกัน …PRAVINIA

นวดหน้า

----------
สนใจ เป็นลูกศิษย์ครูบี พราวีเนีย...และเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับสถาบันสอนนวดหน้าเรียว เคาะหน้ามืออาชีพ พราวีเนีย แห่งแรกและ แห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดเป็นโรงเรียน เต็มรูปแบบ
เรียนนวดหน้าเรียว เคาะหน้าเด้ง เหลาหน้า V Shape นวดหน้าลดไขมัน กดจุด เดรนน้ำเหลือง กัวซา และหาลูกค้าออนไลน์ สร้าง Fan Page บน Facebook...กลับมาเรียนซ้ำได้ ฟรี! ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
Tel. 0854244565, 0859456245, 027144465
Line: pravinia
www.pravinia.co.th